Author: pittaya

  • รีวิว Sony Xperia Z3

    รีวิว Sony Xperia Z3

    Sony Xperia Z3 เป็นมือถือรุ่นเรือธงของ Sony ในช่วงครึ่งหลังของปี 2014 เป็นตัวต่อจาก Xperia Z2 ที่ออกมาเมื่อต้นปี ตามรอบการออกมือถือของ Sony ที่ออกปีละ 2 ครั้ง ต่างจากยี่ห้ออื่นที่ออกกันปีละครั้ง สเป็คคร่าวๆ ของ Xperia Z3 ตัวนี้คือ ซีพียู Snapdragon 801 ความเร็ว 2.5 GHz (ปรับความเร็วขึ้นมาจาก 2.3 GHz ของ Xperia Z2) หน้าจอ IPS ขนาด 5.2″ ความละเอียด FullHD 1920×1080 หน่วยความจำ 3 GB พื้นที่ความจุภายใน 16 GB ใส่ SD Card เพิ่มได้ กล้องหลังใช้เซ็นเซอร์ Exmor RS ความละเอียด…

  • เที่ยวคิวชูด้วยตัวเอง : Daimyo / Fukuoka’s Yatai

    จากแถว Hawks Town นั่งรถเมล์กลับมาแถว Daimyo พบว่าแถวนี้เป็นย่านฮิปๆ ของวัยรุ่น มีร้านขายของเก๋ๆ คาเฟ่น่านั่ง เดินได้เพลินๆ ร้านกาแฟสัญชาติฟินแลนด์ Robert’s Coffee มีป้ายตัวการ์ตูนมูมินอยู่หน้าร้าน แต่เหมือนข้างในจะไม่มีมูมินนะ ถ้าอยากไปคาเฟ่ที่มีมูมิน ต้องไป Mumin Bakery & Cafe ในห้าง Canal City แทน ไม่นานก็มาถึง AKB48 Cafe & Shop ซึ่งก็เหมือนกับ shop สาขาอื่นคือ แบ่งโซนขายของที่ระลึกกับโซนคาเฟ่ขายอาหารและเครื่องดื่ม ป้ายหน้าร้านมีเมนูแนะนำโดยสมาชิก HKT48 บางอย่างดูน่ากิน บางอย่างก็ดูไม่น่าจะกินได้ เมนูที่ลองสั่งดูคราวนี้เป็น Horumon Don หรือข้าวหน้าเครื่องใน ออกมาหน้าตาตามในรูป มีข้าวข้างล่าง โปะด้วยไส้ น่าจะเอาไปตุ๋นหรือปรุงยังไงสักอย่าง ได้การ์ดแถมมาด้วย รับรองว่าเมนูนี้แนะนำโดย นัตสึ (มัตสึโอกะ นัตสึมิ) เมนูเครื่องดื่มก็แนะนำโดยเมมเบอร์เหมือนกัน ราคาก็ถือว่าแพงอยู่ ผมกะว่าจะไปหาอะไรกินต่อที่อื่นด้วยก็เลยเซฟท้องไว้ กินแค่ข้าวชามเดียวพอ…

  • เที่ยวคิวชูด้วยตัวเอง : Tenjin / Hawks Town

    เที่ยวคิวชูด้วยตัวเอง : Tenjin / Hawks Town

    ตัวเมืองฟุกุโอกะเองมีขนาดไม่ใหญ่นัก การเดินทางภายในเมืองจะมีรถไฟใต้ดิน 3 สายและรถบัสที่ครอบคลุมอยู่ใน Tourist Pass แต่บางจังหวะถ้าระยะทางไม่เกิน 1 กิโล ผมมักจะเดินเอามากกว่า เพราะจะได้ทำความคุ้นเคยเส้นทางบนดิน เผื่อเจอจุดถ่ายรูปสวยๆ และออกกำลังกายไปในตัว ถนนหนทางในเมืองส่วนใหญ่มีป้ายภาษาอังกฤษกำกับ แต่ถ้าจำตัวคันจิของชื่อสถานที่สำคัญได้ก็จะช่วยได้เยอะ (เช่น เวลาดูป้ายด้านหน้าหรือด้านข้างรถบัส) ที่ผมจำเป็นหลักจะมีสองชื่อคือ 「博多」- Hakata (ฮากาตะ) และ「天神」- Tenjin (เทนจิน) ซึ่งเป็นชื่อของสองย่านหลักในเมือง ผมพักอยู่ใกล้ๆ สถานีฮากาตะ ดังนั้นเวลาจะกลับที่พักก็มองหารถบัสที่มีป้ายบอกว่าไป 博多駅 – Hakata Eki (สถานีฮากาตะ) ก็จะง่ายดี นอกจากนี้ยังมีตัวคันจิบอกทิศที่ควรจำเพิ่มอีกเล็กน้อยเพราะเจอบ่อย ได้แก่ 北 – Kita (ทิศเหนือ), 南 – Minami (ทิศใต้), 東 – Higashi (ทิศตะวันออก), 西 – Nishi (ทิศตะวันตก) โดยเฉพาะพวกชื่อสถานีหรือชื่อป้ายรถเมล์ในญี่ปุ่น มักจะเขียนทับศัพท์ภาษาญี่ปุ่นด้วยภาษาอังกฤษ เช่น…

  • เที่ยวคิวชูด้วยตัวเอง : Hello Fukuoka

    เที่ยวคิวชูด้วยตัวเอง : Hello Fukuoka

    การเดินทางจากกรุงเทพไปคิวชูมีสายการบินให้เลือกหลายสาย ที่ผมใช้บริการในครั้งนี้คือสายการบิน Jetstar ที่บินตรงจากสุวรรณภูมิถึงสนามบินฟุกุโอกะเลย ใช้เวลา 5 ชั่วโมงครึ่ง ไม่แวะพักที่ไหน บิน Airbus A320 สภาพเครื่องดูใหม่ สะอาดเรียบร้อยดี แต่ด้วยความที่เป็น lowcost นั่งยาวๆ ก็ค่อนข้างเมื่อยอยู่เหมือนกัน ผมเลือกอ่านหนังสือ Kyushu You and Me ของปาลิดา พิมพะกร สำนักพิมพ์ไต้ฝุ่น เป็นข้อมูลก่อนมา เนื้อหาออกจะเป็นแนวเที่ยวชิลล์ๆ มากกว่าไกด์บุ๊คเต็มสูบ เล่มไม่หนามาก อ่านวันเดียวก็จบ แหล่งข้อมูลอื่นก็ไม่พ้น japan-guide.com สำหรับข้อมูลทั่วไป, Yokanavi สำหรับข้อมูลของแถบฟุกุโอกะ ถ้านั่ง Jetstar พอมาถึงสนามบินฟุกุโอกะแล้วเราจะมาลงที่ International Terminal ต้องต่อรถ shuttle bus (ฟรี) มาลงที่ Domestic Terminal เพื่อต่อรถเข้าเมืองอีกที จะนั่งรถบัสหรือรถไฟใต้ดินก็ได้ ที่ Bus Information Center หน้า Terminal…

  • Guri Guri Gurumi

    Guri Guri Gurumi

    ทริปคิวชูที่ไปมาเมื่อเดือนก่อนแทบไม่ได้ช้อปปิ้งอะไรติดมือกลับมาเลย ทั้งทริปซื้อแค่ photobook กลับมาเล่มเดียวคือ Guri Guri Gurumi 「ぐりぐりぐるみ」 เป็น Photobook เล่มแรกของดาราวัยรุ่น Nounen Rena Nounen Rena โด่งดังเป็นพลุแตกจากการรับบทเป็นนางเอกในซีรีส์ Amachan (แนะนำว่าสนุกมาก ใครยังไม่ได้ดูควรหามาดูเป็นอย่างยิ่ง) โดยเล่นเป็นเด็กสาวอายุอ่อนกว่าอายุจริงอยู่พอสมควร (พอดีหน้าเด็ก) เวลาไปถ่ายแฟชั่นลงนิตยสารบางทีก็มีติดภาพบุคลิกแบบนี้มาด้วย ช่างภาพของเล่มนี้คือ Kazuna Iida ที่ดูจากงานเก่าๆ ก็จะถนัดงานสีสดๆ แบบนี้ดี ทั้ง costume และสไตล์ก็จะแหวกจาก photobook ไอดอลทั่วไปอยู่เยอะเหมือนกัน ในเล่มมีแถมสมุดภาพเล่มบางๆ หน้าตาเหมือนเป็นนิทานภาพสำหรับเด็กมาให้ด้วย เล่มนี้ราคาอยู่ที่ 1,500 เยน ลองหาดูที่ Kinokuniya ในบ้านเราแล้วไม่มีขาย ถ้าใครสนใจอาจจะต้องสั่งเอาจากเว็บญี่ปุ่นแทน

  • สรุปทริปคิวชู 2014

    ช่วงสิงหาคมที่ผ่านมามีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกรอบหนึ่ง บริเวณเกาะคิวชูตอนเหนือ ถึงแม้ว่าช่วงพฤษภาจะได้ไปนาโกย่ามาแล้ว แต่เห็นราคาตั๋วของ Jetstar แล้วอดใจไม่ไหวจริงๆ ปลายปีนี้ก็เห็นมิตรสหายหลายท่านมีแพลนจะไปคิวชูกัน ก็เลยลัดคิวเขียนเรื่องคิวชูก่อน ส่วนบล็อกเที่ยวนาโกย่าที่ยังเขียนไม่จบค่อยเอาไว้เขียนต่อทีหลัง คงไม่ค่อยมีคนไปเที่ยวนาโกย่ากันเท่าไหร่หรอก (มั้ง) ถ้าจะดูแยกกันก็ดูตามแท็ก nagoya กับ kyushu นะครับ ค่าใช้จ่ายที่ไปคราวนี้ถือว่าน้อยกว่าที่ไปนาโกย่าเยอะ เนื่องจากได้ตั๋วเครื่องบินถูกและการเดินทางในคิวชูมี pass ให้เลือกหลากหลายกว่า ประหยัดค่าเดินทางได้มาก ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ BKK-FUK-BKK (บินตรง) ของ Jetstar ช่วงโปรโมชั่น น้ำหนักขาไป 15 kg / ขากลับ 20 kg รวมแล้ว = 6,876 บาท ข้อดีมากๆ คือราคาถูก บินตรงและเวลาโอเค ส่วนข้อเสียก็เหมือน low cost ทั่วไป คือนั่งยาว 5 ชม.ครึ่ง ก็จะไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ และไม่มีอาหารไม่มีน้ำ ควรเตรียมไว้ก่อนขึ้นเครื่องให้พร้อม ที่พักจองจาก booking.com เป็น Hostels…

  • เที่ยวนาโกย่า : Yokoso Nagoya

    ทริปนี้เป็นทริปมาญี่ปุ่นแบบลุยเดี่ยวเป็นครั้งที่สองของผม ความรู้ภาษาญี่ปุ่นก็ดีขึ้นกว่าปีที่แล้วพอสมควร แต่ก็ยังจัดอยู่ในระดับเบสิกมากๆ (แบบเรียน Minna no Nihongo เล่มสอง ยังไม่ถึงครึ่งเล่ม) จากเมืองไทย ถ้าจะมานาโกย่าก็ต้องมาลงที่สนามบิน Chubu Centrair International Airport หรือที่เค้าเรียกกันสั้นๆ ว่า Centrair (ตัวย่อ NGO) มีสายการบินให้บริการหลายสายทั้งบินตรงและแบบต้องต่อเครื่อง ที่ผมใช้บริการคือ China Eastern มีแวะต่อเครื่องที่เซี่ยงไฮ้ แต่ก็ราคาถูกกว่าสายการบินที่บินตรงอย่างมีนัยยะสำคัญ แวะต่อเครื่องที่เซี่ยงไฮ้ (PVG) Centrair เป็นสนามบินค่อนข้างใหม่ เพิ่งเปิดใช้เมื่อปี 2005 นี่เอง ลักษณะเป็นเกาะที่สร้างด้วยการถมที่ขึ้นมาเป็นสนามบิน อยู่ห่างจากตัวเมืองนาโกย่าไปทางใต้ เวลาเดินทางเข้าเมืองปกติก็จะนั่งรถไฟเอกชนของ Meitetsu เข้าไป (ใช้ JR Pass ขึ้นไม่ได้) ซึ่งจริงๆ แล้วแถบภาคกลางของญี่ปุ่นจะมีรถไฟเอกชนให้บริการเยอะกว่าของ JR ทำให้ใช้ JR Pass ไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ (ก็เลยไม่ได้ซื้อ) JR Nagoya Station สถานีรถไฟหลักของนาโกย่าคือ JR…

  • สรุปทริปนาโกย่า 2014

    ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นรอบสอง ห่างจากปีที่แล้วราวๆ ปีนึงพอดี คราวนี้ไปเฉพาะแถบเมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ ไม่ได้มาแถบโตเกียวเลย หลังจากปีที่แล้วได้ไป event ของวง AKB48 มาแล้วรู้สึกติดใจ ปีนี้ก็อยากมาอีก แต่คราวนี้เป็นของวง Nogizaka46 ที่จัด event ในนาโกย่า 2 วันติด ก็เลยเป็นเหตุผลหลักของทริปนี้ สรุปโปรแกรมเที่ยวนาโกย่าคร่าวๆ Day 1 นั่งสายการบิน China Eastern ออกจากสุวรรณภูมิตอนตีสอง แวะพักเซี่ยงไฮ้ 2 ชม.ครึ่ง ต่อเครื่องไปถึงนาโกย่าเกือบๆ บ่ายโมง เข้าตัวเมืองนาโกย่า เก็บกระเป๋าเข้าโรงแรม ออกไปเดินเล่นย่าน Osu Kannon Shopping Arcade Day 2 ไปต่อคิวเข้างานจับมือใหญ่ของ Nogizaka46 ที่ Port Messe ตั้งแต่เช้า ตอนบ่ายๆ ไปเดินเที่ยว SC Maglev & Railway Park Day…

  • Natsu no Free & Easy T-Shirts

    ซิงเกิ้ลที่ 9 ของ 乃木坂46 (Nogizaka46) ที่ชื่อว่า 「夏のFree&Easy」 (Natsu no Free & Easy) เพิ่งวางขายไปเมื่อวันก่อน โดยมีหน้าปกเป็นคอนเซปต์ประมาณว่าให้เมมเบอร์ทุกคนไปดูคอนเสิร์ตวงร็อค ใส่เสื้อยืดกันหมด เสื้อยืดที่แต่ละคนใส่ก็จะล้อกับชื่อหรือเรื่องส่วนตัวของเมมเบอร์นั้นๆ แต่ละคนไม่ซ้ำกัน ตัวอย่างปกก็ตามรูป มีเสื้อบางลายที่เห็นแล้วชอบเลย อันนี้เอาโลโก้วงร็อค AC/DC มาดัดแปลงเป็นชื่อเมมเบอร์ Hashimoto Nanami (คำว่า Nanami พ้องเสียงกับ 773 ในภาษาญี่ปุ่น) หนึ่งในชื่อเล่นของ Nishino Nanase ที่เรียกกันคือ Nanasemaru ซึ่ง Maru = วงกลม ลายนี้ดัดแปลงมาจากโลโก้ของ Nirvana ที่ชอบที่สุดคือลายของ Matsui Rena อันนี้ ดัดแปลงจากปกอัลบั้ม The Dark Side of the Moon ของ Pink Floyd ที่มาแทนปริซึมที่อยู่ตรงกลางคือตัวปลา…