-
โตเกียวเที่ยวเอง #9 : Makuhari Messe
หนึ่งในเหตุผลที่มาโตเกียวในช่วงนี้ก็คือ มางานอีเวนต์จับมือของวง AKB48 ที่จัดในช่วงนี้พอดี โดยสถานที่จัดคราวนี้คือ Makuhari Messe จังหวัดชิบะ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของโตเกียว การเดินทางก็นั่งรถไฟออกจากโตเกียวมาประมาณ 50 นาที ลงที่สถานี Kaihinmakuhari ออกจากสถานีมาก็จะเจอห้าง Plena ต้องเดินอ้อมไปทางด้านขวาของห้าง ถึงจะไปยัง Makuhari Messe ได้ ส่วนตัวมาสค็อตที่อยู่ด้านหน้านี่เป็นของทีมเบสบอล Chiba Marines ซึ่งมีสนามเหย้าอยู่ใกล้ๆ นี้ อันนี้ถ่ายย้อนกลับไปทางสถานีรถไฟ จะเห็นคนทยอยมากันเรื่อยๆ เดินอ้อมห้างไป ข้ามสะพานลอย แล้วก็จะเจอกับ Makuhari Messe ซึ่งจะเป็น hall ขนาดใหญ่ อารมณ์ประมาณ Impact challenger hall บ้านเรา งานอีเวนต์ของ AKB48 ในเขตโตเกียวถ้าไม่จัดที่นี่ก็จะจัดที่ Tokyo Big Sight ระหว่างทางมี staff ถือป้ายบอกทางตลอด หรือเดินตามฝูงชนไปยังไงก็ไม่หลงทาง งานจับมือของ AKB48 สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย ก็คือเวลาเราซื้อซีดีของวงจะได้บัตรจับมือแถมมาด้วย…
-
โตเกียวเที่ยวเอง #8 : ตลาดปลา Tsukiji / Science Museum
ผมรู้จักชื่อตลาดปลา Tsukiji ครั้งแรกจากการ์ตูน ไอ้หนุ่มซูชิ (สำนักพิมพ์บูรพัฒน์ ออกมา 60 กว่าเล่มแล้ว ยังไม่จบ) เป็นการ์ตูนที่วาดตัวละครได้ไม่หล่อไม่สวยเลย พล็อตเรื่องก็ cliche มากๆ แต่จุดเด่นของเรื่องนี้คือภาพวาดซูชิที่ดูน่ากินมาก + ข้อมูลวัตถุดิบซูชิระดับละเอียดยิบ ทำให้ตั้งใจว่า มาญี่ปุ่นแล้วก็จะขอไปดูตลาดปลา Tsukiji ให้ได้สักครั้งว่าเป็นยังไง ภาพปกเอามาจากเว็บ ToonZone ตลาดปลา Tsukiji เป็นตลาดขายปลาและอาหารทะเลขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ภายในแบ่งเป็นโซนตลาดปลากับโซนขายของ+ร้านอาหาร โดยโซนตลาดปลาจะให้คนทั่วไปเข้าไปได้หลัง 9 โมงเช้าเท่านั้น ส่วนโซนขายของคนทั่วไปมาเดินได้ตั้งแต่ตลาดเปิด ตรงโซนนี้มีร้านซูชิเปิดอยู่หลายร้าน แต่ร้านที่ดังที่สุดคือร้าน ซูชิได (寿司大) ที่ต้องต่อคิวรอกินกันนานมาก ผมพยายามตื่นเช้านั่งรถไฟใต้ดินมา ไปต่อคิวเอาราวๆ 6 โมงครึ่ง ก็เจอคนมาก่อนหน้าเป็นสิบแล้ว (บังเอิญเจอแอดมิน B แห่งเว็บ 48.in.th ต่อคิวอยู่ด้วย) กว่าจะได้กินก็รอไปราวๆ 3 ชม. ถ้าใครจะมากินแบบไม่เสียเวลา แนะนำให้หาที่พักใกล้ๆ ตลาด Tsukiji นี่หรือไม่ก็นั่งแท็กซี่เอา (ร้านเปิดตีสี่ครึ่ง) ระหว่างรอก็ถ่ายรูปไปเรื่อย…
-
โตเกียวเที่ยวเอง #7.2 : Ikebukuro / บ้านพัก Tokiwa
ออกจากย่าน Ebisu แล้ว นั่งรถไฟมาถึงย่าน Ikebukuro ฝนก็ยังตกอยู่ แต่ด้วยความตั้งใจมากินมื้อเที่ยงที่นี่ ทำให้เข้าไปกางร่ม ต่อคิวรอกินแบบไม่กลัวฝน ฝนโตเกียวตกแบบที่จะกางร่มก็เกะกะ แต่ก็หนักเกินกว่าจะไม่กางร่มเลย ร้านที่มากินเป็นมื้อเที่ยงคราวนี้คือ ราเมงซุปกระดูกหมู Mutekiya หน้าร้านหน้าตาเป็นแบบนี้ มีคนกางร่มรอกินเหมือนกัน คิวยาวใช้ได้ ยืนรออยู่ราวๆ 30 นาที กว่าจะได้เข้าไปกิน ระหว่างรอเค้าจะมีเมนูมาให้เลือกก่อน มีภาษาไทยด้วย รับประกันได้ว่าเป็นร้านที่คนไทยมากันเยอะ ตอนสั่งนอกจากเลือกว่าจะเอารางเมงแบบไหนแล้ว ยังเลือกได้ด้วยว่าจะเอาเส้นเยอะหรือว่าเส้นน้อย (แต่ราคาเท่ากัน) คือได้ topping เหมือนกันหมดทุกอย่างต่างแค่ปริมาณเส้น อาจจะเหมาะกับสาวๆ ที่กินไม่เยอะเท่าไหร่ ราเมงออกมาหน้าตาแบบนี้ ชามนี้ 890 เยน (ตอนนี้น่าจะขึ้นราคาตาม VAT ไปแล้ว) อร่อยคุ้มราคาและการเสียเวลาต่อคิว หมูนุ่ม ไข่ต้มได้สุกเป็นยางมะตูมกำลังดี น้ำซุปเข้มข้นซดจนหมดชามได้เลย กินอิ่มแล้วก็ออกมาเดินต่อ ลัดเลาะซอยทางทิศใต้ของสถานี Ikebukuro เดินหาอยู่สักพัก จนในที่สุดก็ได้เจอกับ โรงเรียนสตรี Jiyugakuen Myonichikan หน้าตาโรงเรียนเป็นแบบนี้ ตัวอาคารของ Jiyugakuen Myonichikan…
-
โตเกียวเที่ยวเอง #7 : Tearoom Tane / Museum of Yebisu Beer
มื้อเช้าของวันที่ 7 ในโตเกียวจะออกไปกินไกลสักหน่อย โดยไปถึงสถานี Takashimadaira ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโตเกียว นั่งรถจากที่พักตรง Asakusa ก็ราวๆ สามต่อ ใช้เวลาประมาณ 50 นาที ร้านที่ไปชื่อว่า ティールームタネ (Tearoom Tane) ก็เป็นคาเฟ่ธรรมดา ขายกาแฟ ขายอาหารทั่วไปนี่แหละ ความพิเศษของ Tearoom Tane นี่อยู่ที่ว่าเป็นร้านของครอบครัวของ Minegishi Minami หนึ่งในสมาชิก AKB48 ในร้านก็จะมีมุมรวมผลงาน + ของที่ระลึกในโอกาสต่างๆ รวมซีดีที่ออก + ลายเซ็นเพื่อนฝูงในวง AKB48 โมเดลจากในละคร Majisuka Gakuen จังหวะที่ไปเป็นตอนเช้า ก็จะมีชุดอาหารเช้าเสิร์ฟ มีให้เลือกหลายเมนู ราคากลางๆ มาตรฐานร้านญี่ปุ่น สั่งเมนูขนมปัง ไส้กรอก ไข่ต้ม กาแฟ มาตรฐาน รสชาติถือว่าดีทีเดียว ทางร้านมีบัตรสะสมแต้มให้ด้วย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้มาสะสมแต้มอีกเมื่อไหร่ ตอนจ่ายเงินคุณป้าที่แคชเชียร์เก็บเงินเห็นท่าทางเหมือนพวกแสวงบุญไอดอล เลยชวนคุย แต่ด้วยความรู้ภาษาญี่ปุ่นที่จำกัดก็ตอบได้แค่ว่ามาจากเมืองไทย ที่เหลือฟังไม่ออก…
-
โตเกียวเที่ยวเอง #6.2 : Omotesando / Shinjuku
ต่อจากตอนที่แล้ว ที่ไปดู National Art Center โปรแกรมถัดไปคือไปเดิน Omotesando ถนนเส้นที่ได้ชื่อว่าเป็น Champs-Élysées ของญี่ปุ่น จาก National Art Center เดินต่อไปราวๆ 1 กิโลเมตรก็ถึง หรือถ้าคนที่ไม่อยากเดินก็ไปลงรถไฟใต้ดินสถานี Nogizaka แถวนั้นไปขึ้นที่ Omotesando ก็ได้ ทางลงรถไฟใต้ดินสถานี Nogizaka บ้านเกิดของวงไอดอล Nogizaka46 คู่แข่งอย่างเป็นทางการของ AKB48 Omotesando เป็นถนนที่วางผังได้สวยงาม มีต้นไม้สองข้างทางร่มรื่น มีร้านรวงหรูหราทั้งสองฟากถนน แต่อารมณ์จะคนละแบบกับ Champs-Élysées ที่ปารีส คือนอกจากเรื่องความกว้างของถนนที่ปารีสกว้างกว่าเยอะแล้ว บรรยากาศที่ Omotesando นี่ดูเรียบร้อย เจียมเนื้อเจียมตัวแบบตะวันออก ร้านหรูที่ตั้งอยู่ก็ไม่ได้จงใจสร้างให้อู้ฟู่โดดเด้ง แต่ดูแล้วกลืนไปกับถนนมากกว่า มีฟรี WiFi ให้เล่นตามถังขยะ ตรอกที่แยกออกจากถนนหลัก ก็ดูเล็กๆ น่ารักสไตล์ญี่ปุ่น ช่วงกลางๆ ความยาวของถนนจะมีห้างชื่อ Omotesando Hills อยู่ เป็นห้างหรูที่ออกแบบภายในได้สวยมาก ถ้าใครมีโอกาสได้ไปแนะนำให้ลองเข้าไปชม…
-
โตเกียวเที่ยวเอง #6 : Zero Studio / National Art Center
วันที่ 6 ของการเที่ยวโตเกียวครั้งนี้ โปรแกรมแรกคือไป Zero Studio ที่สถานีโทรทัศน์ Nippon Television แถวย่าน Shinbashi แต่ก่อนไปก็หาร้านจานด่วนแถวที่พัก หยอดเหรียญ รับตั๋ว เข้าไปกินเอาแรงก่อน เช้านี้เป็นคัตสึด้ง รสชาติพอถูไถ ออกจากสถานี Shinbashi มาแล้วก็จะถึงหมู่ตึกของ Nippon Television เลย Zero Studio จะเป็นสตูดิโอถ่ายทำที่เป็นชั้นลอยอยู่นอกตัวตึก เป็นห้องกระจกใสมองหาไม่ยาก หน้าตาประมาณนี้ เดินผ่านตอนยังไม่เริ่มถ่ายทำ ที่มา Zero Studio ในวันนี้ก็เพราะว่าจะมีถ่ายทำรายการ PON! ซึ่งเป็นรายการสด และ 1 ในพิธีกรวันนี้ก็คือ Shinoda Mariko จาก AKB48 น่ะเอง ถึงแม้ฝนจะตกปรอยๆ แต่บรรดาแฟนรายการก็ยังอุตส่าห์มาต่อคิวรอดูที่หน้าสตูดิโอกันอย่างคึกคัก สังเกตในรูป ประตูสตูดิโออยู่ทางซ้าย หางแถวจะยาวไปทางขวา ช่วงก่อนถ่ายทำจะมี รปภ.เอารั้วมากั้นไว้ พร้อมแปะป้ายห้ามถ่ายรูป ห้ามถ่ายวิดีโอ ให้แฟนๆ ยืนเรียงแถวรอรับได้เฉพาะตรงทางเดินเท่านั้น จนกระทั่งถึงเวลา…
-
โตเกียวเที่ยวเอง #5.2 : Shibuya
จากที่ไปเดิน Nakano Broadway ในตอนที่แล้ว ก็นั่งรถไฟมาที่ชิบุย่า หนึ่งในย่านที่พลุกพล่านที่สุดของโตเกียว การเดินทางก็ใช้รถไฟเหมือนเดิม นักท่องเที่ยวที่มาสถานีนี้ ปกติก็จะไม่พลาดที่จะไปดูรูปปั้นหมาฮะจิโกะ ออกจากสถานีชิบุย่าทางตะวันตกเฉียงเหนือ จะมีทางออกชื่อ Hachiko Exit เลย หาไม่ยากนัก แถวๆ รูปปั้นนอกจากพวกนักท่องเที่ยวที่มาถ่ายรูปแล้ว ยังเป็นจุดนัดพบของคนโตเกียวด้วย ทำให้มีคนยืนรอนัด ยืนสูบบุหรี่กันเต็มไปหมด บนพื้นมีตรารูปหมาด้วย หน้ารูปปั้นฮะจิโกะจะมีลานกว้างประมาณนึง วันที่ไปมีรณรงค์เรื่องการเมืองอะไรสักอย่าง มีปราศรัยบนหลังรถบรรทุกด้วย อ่านไม่ออก ไม่รู้เค้าประท้วงเรื่องอะไร จากลานกว้างตรงนี้ ถ้าหันหลังให้ฮะจิโกะ มองไปทางถนนใหญ่จะเห็นแยก Shibuya Scramble อันโด่งดัง ถ่ายจากถนนดูไม่ค่อยวุ่นวายเท่าไหร่ จะให้สวยต้องดูจากมุมสูง ซึ่งจุดที่วิวดีที่สุดคือ ให้ข้ามถนนไปที่ร้าน Tsutaya แล้วขึ้นไปชั้นบนที่เป็น Starbucks แล้วมองลงมา ถือโอกาสเดินดู Tsutaya ไปในตัว ช่วงนั้น Evangelion 3.33 ออก DVD/BluRay พอดี นอกจาก Evagelion แล้วก็ยังมีแผ่นจากคอนเสิร์ตงาน Request Hour ของ…
-
โตเกียวเที่ยวเอง #5 : Iwasaki Chihiro Museum / Nakano Broadway
โปรแกรมทัวร์โตเกียวแบบเดินคนเดียวก็ยังดำเนินต่อไป วันนี้ออกจากที่พักแต่เช้าเพราะต้องเดินทางไกลพอสมควร มวลมหาประชาโตเกียวรอรถไฟ เป้าหมายเช้านี้คือ Iwasaki Chihiro Art Museum ที่เป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่รวบรวมงานของ Iwasaki Chihiro นักวาดภาพของญี่ปุ่นที่เห็นภาพแล้วคงคุ้นตากันอยู่ แต่ก็ตามประสาของ museum เล็กๆ ที่ชอบไปอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ก็ต้องนั่งรถไฟหลุดจากลูป Yamanote ออกไปทางทิศตะวันตก แล้วไปลงที่สถานี Kamiigusa มีป้ายชัดเจน ไม่ผิดสถานีแน่ ในสถานีก็มีโปสเตอร์กันดั้ม (และเคโรโระ) ด้วย สิบโทสอนมารยาทบนรถไฟ ที่สถานี Kamiigusa จะมีจุดชักภาพเล็กน้อย คือรูปปั้นกันดั้มที่อยู่ตรงทางเข้าสถานี ที่มาของรูปปั้นนี่ก็คือว่าแถบนี้เป็นที่ตั้งของ Sunrise Studio ซึ่งเป็นสตูดิโอที่ทำอนิเมกันดั้มนั่นเอง เดินวนๆ แถวนั้นสักพักก็เจอ Sunrise Studio ขนาดก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร พอด้อมๆ มองๆ ดูแล้วเข้าใจว่าเป็นบริษัท ไม่เปิดให้คนเข้าไปเยี่ยมชม ก็ได้แค่ชักภาพด้านนอก ด้านหน้ามีหัวกันดั้มติดอยู่ด้วย อาหารเช้าวันนี้แวะซื้อจากมินิมาร์ทแถวนั้น ได้เป็นกาแฟกับแป้งทอดไส้ครีม กินกาแฟก็ต้อง Wonda พรีเซ็นเตอร์โดย คาชิวากิ ยูกิ แถวนี้เป็นแหล่งที่พักอาศัย…
-
โตเกียวเที่ยวเอง #4.2 : Odaiba
จากตอนที่แล้ว พอออกจาก Mori Tower ก็หลังเที่ยงได้เวลาหาของกินพอดี มื้อนี้ไปลงเอยที่ร้าน Fukuzushi แถว Roppongi นั่นแหละ พอดีมีเซตมื้อกลางวันราคาโอเคอยู่ บรรยากาศในร้านดูมืดๆ สไตล์คนแก่ๆ หน่อย วันที่ไปคนไม่เยอะมาก แต่มาคนเดียวก็ไปนั่งกินตรงเคาท์เตอร์ เชฟที่ปั้นให้กินเห็นเป็นนักท่องเที่ยวก็พยายามชวนคุยด้วยภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่น พอสื่อสารได้ว่ามาจากเมืองไทยเค้าก็ไม่รอช้าจะบอกว่า สวัสดีครับ อัธยาศัยดีเกินร้อย เซตกลางวันของที่นี่ได้ซูชิทั่วไปตามในรูป ไม่มีปลาฮายโซวแต่อย่างใด มีซุปใส่หัวกุ้ให้ซดด้วย กินซูชิเสร็จแล้วจะมีพนักงานพาไปอีกโซนหนึ่งของร้าน เอาชามาเสิร์ฟ พร้อมของหวาน ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร แต่อร่อยดี เหมือนพุดดิ้งนม ตัดกับน้ำราดที่หวานอมเปรี้ยวนิดๆ ของหวาน จบแล้วก็มุ่งหน้าสู่เป้าหมายต่อไปที่ Odaiba โอไดบะเป็นเกาะใหม่ที่ถมขึ้นมากลางอ่าวโตเกียว บนเกาะก็จะมีแต่สิ่งก่อสร้างใหม่ๆ ล้ำๆ หน่อย วิธีเดินทางมาทำได้โดยนั่งรถไฟมาต่อโมโนเรลสาย Yurikamome เป็นสายเดียวที่ผ่านที่เกาะ สถานีของสาย Yurikamome รถไฟเลี้ยว Yurikamome นี่เป็นโมโนเรลแบบไร้คนขับ เวลาขึ้นไปให้รีบไปจับจองที่นั่งด้านหน้า จะได้เจอวิวสวยๆ จุดน่าสนใจของโอไดบะก็หนีไม่พ้นห้าง Diver City ซึ่งหน้าห้างมีกันดั้ม RX-78-2 สัดส่วน 1/1 ตั้งโชว์อยู่…
-
โตเกียวเที่ยวเอง #4 : Tokyo Tower / Mori Art Museum
เที่ยวโตเกียววันที่สี่ ช่วงเช้าวันนี้จะไปดู Tokyo Tower สัญลักษณ์ที่อยู่คู่กับโตเกียวมาตั้งแต่ปี 1958 การเดินทางก็นั่งรถไฟใต้ดินมาโผล่ที่สถานี Daimon เงยหน้ามองหาหอคอยสูงๆ แล้วเดินตามถนนมาเลย ระหว่างทางเจอร้าน Matsuya มีอาหารเซตมื้อเช้าราคาไม่แพง ก็แวะกินเอาแรงสักหน่อย เดินตรงมาเรื่อยๆ ก่อนถึง TOkyo Tower จะเจอกับวัด Zojoji อันนี้เป็นมุมบังคับ ถ่ายกันทุกคน ในวัดก็ดูร่มรื่นดี มีแผ่นป้านเอมะขอพรเหมือนวัดอื่นๆ ที่ต่างออกไปคือมีตุ๊กตาหินตั้งเรียงรายอยู่เป็นแถว ไม่รู้เหมือนกันว่าหมายถึงอะไร เดินเลยวัดมาก็จะเจอกับ Tokyo Tower ตั้งตระหง่านอยู่ ตอนที่ไปเป็นช่วงเช้าวันทำงาน ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ อาจจะไปเดินเห่อของใหม่กันอยู่แถว Tokyo Skytree หมดแล้วก็เป็นได้ ถ้าใครอยากขึ้นไปชมวิวก็สามารถซื้อตั๋วได้ที่ด้านล่าง แต่ตั้งใจว่าจะไปหาจุดชมวิวที่อื่น ก็เลยไม่ได้ขึ้นที่นี่ จาก Tokyo Tower ถ้าเดินอึดๆ หน่อย ก็สามารถเดินต่อไปถึง Roppongi ได้ไม่ไกลนัก เดินชมวิวไปเรื่อย จนมาถึง Roppongi Hills ซึ่งเป็นโซนที่มีการพัฒนาที่ดินครบวงจร มีหมู่ตึกทั้งอาคารสำนักงาน ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ภัตตาคาร…