-
เที่ยวคิวชูด้วยตัวเอง : ปราสาท Kumamoto
จบจากดูนิทรรศการที่ Contemporary Art Museum แล้วก็ไปต่อที่ปราสาท Kumamoto ท่ามกลางท้องฟ้ามืดครึ้ม มองไปไหนก็เจอแต่คุมะมง ทางเข้าปราสาท ค่าเข้า 500 เยน ด้วยโครงสร้างของปราสาทกำแพงด้านนอกจะเป็นกำแพงหิน มีทางเดินขึ้นเนินซับซ้อน เพื่อให้ป้องกันข้าศึกที่มาบุกได้ง่าย ผ่านส่วนทางเข้าที่ซับซ้อนแล้วก็จะมาเจอตัวปราสาท Kumamoto สักที ด้านหน้าปราสาทเป็นลานกว้าง ถ่ายรูปกันได้ตามสะดวก ตรงมุมของลานกว้างมีหอสังเกตการณ์ ขึ้นไปดูได้ ดูวิวออกไปทางนอกปราสาท ทางเดินภายในดูเก่าๆ ขลังๆ ดี อันนี้เป็นทางเดินใต้ดิน ดูใหม่หน่อย คงเพิ่งมาทำทีหลัง มีจุดให้ชักภาพ ก่อนจะขึ้นปราสาท Kumamoto ผมไปเดินส่วนที่เป็นตำหนัก Honmaru ก่อน ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นอาคารทำจากไม้ทั้งหลัง บูรณะขึ้นมาจนดูใหม่กิ๊ง ดูเหมือนในการ์ตูนเลย ตัวตำหนัก Honmaru ก็ดูสวยเนี้ยบดี แต่ถ้าเทียบกับของปราสาทนาโงย่าที่เคยไปมาแล้ว ดูอันนี้จะอลังการน้อยกว่านิดนึง ต่อไปก็เข้าไปดูในตัวปราสาท Kumamoto ซึ่งก็จัดแสดงเหมือนปราสาทญี่ปุ่นทั่วไป มีส่วนนิทรรศการ มี artifact เก่าๆ ให้ดู ซึ่งบางทีพอจัดพื้นที่เป็นแบบนี้แล้วมันรู้สึกเหมือนข้างในไม่ใช่ปราสาท เหมือนเป็นตึกธรรมดามากกว่า มีตัวปลาที่ปกติจะประดับอยู่บนหลังคาให้ดู แผนที่เมืองในสมัยก่อน…
-
เที่ยวคิวชูด้วยตัวเอง : Takeo Onsen / Kumamoto Contemporary Art Museum
ตามโปรแกรมวันนี้จะเป็นการไปเก็บตกในเมือง Kumamoto ที่วันก่อนมีเวลาแค่ตอนเย็นนิดเดียว ปกติเริ่มจากที่ Hakata ถ้านั่งชินคันเซ็นไปก็ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง แต่ช่วงเช้าวันนี้มีเหตุผลให้ต้องออกนอกเส้นทางเล็กน้อย แทนที่จะนั่งชินคันเซ็นตรงไป Kumamoto เลย ผมขึ้นรถ Ltd. Express Midori ที่มุ่งหน้าไปทาง Nagasaki แทน Midori Express ขบวนที่นั่งนี่เป็นตู้ที่พ่วงกับขบวนที่มุ่งหน้าไปยังสวนสนุกเฮาส์เท่นบอสช์ (Huis Ten Bosch) ด้วย ซึ่งสวนสนุกนี่จะเป็น theme หมู่บ้านยุโรป เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ขึ้นชื่อของ Nagasaki แต่ถ้าจะไปต้องมีเวลาทั้งวันเต็มๆ ถึงจะพอเที่ยวได้ทั่ว (ซึ่งไม่มี) เป้าหมายคือสถานี Takeo-Onsen ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม. 8 นาที กาแฟดำรองท้อง ร้านขายอุด้ง/โซบะ แบบยืนกินตามสถานี สองข้างทางก็เป็นบ้านนอกคิวชู มีแต่ทุ่งหญ้าทุ่งนา เหตุผลของการมาที่สถานี Takeo-Onsen นี่คือมาตามหาข้าวกล่อง Calbi Yakiniku 極上カルビ焼肉弁当 ที่มีขายเฉพาะที่สถานีนี้เท่านั้น ความพิเศษของข้าวกล่องนี่คือเป็นข้าวกล่องที่ชนะการประกวดข้าวกล่องของภูมิภาคคิวชูปีล่าสุด พอถึงสถานี Takeo-Onsen แล้วผมจะมีเวลาตามหาร้าน…
-
เที่ยวคิวชูด้วยตัวเอง : Glover Garden / ชมวิวจากเขา Inasa
ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของ Nagasaki จะเป็นคาบสมุทรติดทะเล อยู่ไม่ไกลจากเกาหลี และด้วยความที่เป็นเมืองท่าที่มีการติดต่อค้าขายกับต่างชาติเยอะ ทำให้ได้รับอิทธิพลจากทั้งเมืองจีนและฝรั่งตะวันตก ถัดจาก China town ตามแผนคือไปต่อที่ Glover Garden ที่เป็นบ้านเก่าของพ่อค้าชาวสก๊อต ตั้งอยู่บนเนินเขา แต่ระหว่างทางก็มีจุดน่าสนใจคือ Oranda Dori หรือถนนฮอลแลนด์ จะเป็นถนนสไตล์ตะวันตก ถ้าใครเคยไปมาเก๊าจะได้อารมณ์คล้ายๆ กัน แต่ที่นี่จะชิลๆ คนน้อย สงบกว่า ผมแวะร้านขายของที่ระลึกแถวนี้ ได้ magnet ติดมือกลับมาอันนึง เดินตาม Oranda Dori ไปเรื่อยๆ แล้วจะเจอกับ Oranda zaka หรือที่ตามไกด์บุ๊คจะเรียกว่า Dutch Slope เป็นเนินที่เมื่อก่อนเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของพ่อค้าต่างชาติโดยเฉพาะชาวดัทช์ เดินสบายๆ ไม่ชันมาก บรรยากาศร่มรื่นดี เจอคนวาดรูปด้วย ป้ายทางขึ้นเนินมีหลายจุด เดินซอกแซกไปเรื่อยๆ ไม่นานก็จะเห็น Glover Garden อยู่บนเนินลิบๆ ผมเดินจนเจอ Glover Sky Road ซึ่งเป็นคล้ายๆ ลิฟท์แนวเฉียงพาขึ้นไปจนเกือบถึงยอด…
-
เที่ยวคิวชูด้วยตัวเอง : Nagasaki / Atomic Bomb Museum / China Town
โปรแกรมการเดินทางวันนี้ จะไปอีกจังหวัดหนึ่งในเจ็ดจังหวัดของภูมิภาคคิวชูที่คนไทยคุ้นชื่อกันดี ซึ่งก็คือจังหวัด Nagasaki น่ะเอง คนไทยส่วนใหญ่ที่เคยได้ยินชื่อ Nagasaki ก็มักจะมาพร้อมกับชื่อจังหวัด Hiroshima และเรื่องของระเบิดนิวเคลียร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งตอนแรกผมเองก็รู้อยู่เท่านั้นเหมือนกัน จนกระทั่งได้มาค้นข้อมูลก่อนเดินทางถึงได้พบว่า Nagasaki ก็เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีอย่างอื่นน่าสนใจเยอะอยู่ทีเดียว เริ่มเดินทางจาก Hakata Station เช่นเคย แต่ Nagasaki ไม่มีชินคันเซ็นผ่านทำให้คราวนี้ต้องนั่งรถด่วน Limited Express มาแทน ใช้เวลาเกือบๆ 2 ชม.กว่าจะถึงสถานี Nagasaki มื้อเช้าเป็นข้าวกล่อง Ika Sanmai ซื้อตุนไว้ก่อนจากร้านในสถานี Hakata เป็นข้าวกล่องที่รวมเมนูปลาหมึก (Ika) ไว้หลากหลายชนิด กล่องนี้ 1,200 เยน ระหว่างทาง ผ่านสถานี Saga ซึ่งเป็นอีกจังหวัดหนึ่งในคิวชู แต่ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจมากนัก ก็เลยตัดสินใจไม่ได้แวะในทริปนี้ นั่งมาสอง ชม.ก็ถึง Nagasaki แล้ว พอออกมาจากประตูทางเข้าชานชาลาแล้ว จะมี Tourist Information Center อยู่…
-
เที่ยวคิวชูด้วยตัวเอง : Katsuretsu Tei / Oyafuko-dori
หลังจากกลับจาก Mount Aso พอมีเวลาเดินเล่น หาข้าวเย็นกินในตัวเมือง Kumamoto สักพักนึงก่อนจะนั่งชินคันเซ็นกลับที่พักในฟุกุโอกะ การเดินทางในเมือง Kumamoto ที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่สุดก็คือรถราง (Tram) รถรางในเมืองนี่มี 2 สาย ค่ารถก็เที่ยวละ 150 เยน จ่ายที่กล่องข้างคนขับก่อนลง ผมนั่งไปลงสถานี Torichosuji เดินเที่ยวย่านร้านค้าแถวนั้น มีถนนชื่อ Ginza Street ด้วย ไม่รู้เกี่ยวอะไรยังไงกับย่าน Ginza ที่โตเกียว Sakae Dori อันนี้ก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวอะไรกับย่าน Sakae ที่นาโงย่า ป้ายโฆษณา AKB48 ใหญ่ยักษ์หน้าร้านปาจิงโกะ เจ้าหมีคุมะมงเป็นมาสค็อตที่จะพบเจอได้ทั่วเมือง ไม่ว่าจะเป็นป้ายบอกทาง ป้ายโฆษณา สินค้านานาชนิด ฯลฯ อาหารขึ้นชื่อใน Kumamoto อันดับหนึ่งก็คือ Basashi หรือเนื้อม้าน่ะเอง แต่ว่ามื้อนี้ผมตัดสินใจเลือกกินข้าวหมูทอดญี่ปุ่นแทน ร้านที่ตั้งใจมากินคือร้าน 「勝烈亭」 หรือ Katsuretsu Tei ตามรอยมาจากในเว็บ Tabelog เช่นเคย…
-
เที่ยวคิวชูด้วยตัวเอง : Nakadake Crater / Kusasenri / Aso Boy
หลังจากเดินทางหลายต่อ เป็นเวลาร่วมหลายชั่วโมง ในที่สุดก็ขึ้นมาถึงปากปล่องภูเขาไฟได้สักที แต่สภาพอากาศขมุกขมัว มีเมฆหมอกเยอะ ฝนตกปรอยๆ ตลอดเวลา มีลมพัดแรงเป็นช่วงๆ แบบนี้ก็ดูจะไม่เป็นใจให้เดินดูอะไรสักเท่าไหร่ เหล่าคุณลุงกรุ๊ปทัวร์เกาหลีที่ขึ้นกระเช้ามาเที่ยวเดียวกันดูจะเซ็งอยู่ไม่น้อย เพราะมองไปไม่เห็นอะไร ถ่ายรูปก็ไม่ติดวิวอะไร มองย้อนกลับไปก็เจอหมอกเยอะจนมองไม่เห็นอาคารที่จอดกระเช้าซะแล้ว อากาศบนนี้ก็ค่อนข้างหนาว (บนนี้สูงราวๆ 1,592 เมตรจากระดับน้ำทะเล) ผมที่ใส่แค่เสื้อยืด+กางเกงสี่ส่วน พอเจอลมพัดมาทีนึงก็สั่นอยู่เหมือนกัน รอบปากปล่องภูเขาไฟจะมีทางเดินรอบๆ มีรั้วกั้น ลองมองลงไปในปล่องก็ไม่เห็นอะไรเลย T-T ในเมื่อมองไม่เห็นอะไร แต่ไม่อยากมาให้เสียเที่ยว ก็เลยเดินดูแถวนั้นให้ทั่วๆ สักพักนึงก่อนกลับลงไป อันนี้เป็นที่หลบภัย กรณีภูเขาไฟเกิดปะทุขึ้นมา จังหวะแบบนี้ก็เข้าไปหลบฝนได้ ผมนั่งพักอยู่ในที่หลบภัยพักนึง เตรียมตัวจะกลับลงไปที่ตีนเขา แต่พอดีว่าเป็นจังหวะที่ฝนหยุดตกพอดี ลมพัดหอบเอาหมอกที่มีไปด้วย ทำให้ทัศนวิสัยดีขึ้นมาทันตา พอเดินไปที่จุดชมวิวอีกครั้ง ก็ได้เห็นปล่องภูเขาไฟชัดกว่าทีแรกอยู่ ตามรูปคือเห็นควันพุ่งขึ้นมา มีน้ำสีฟ้าๆ เดือดอยู่ แต่ก็ชัดสุดได้แค่เท่าที่เห็นในรูป ก่อนที่ฝนจะเริ่มมาอีกระลอก ขากลับตามแผนคือจะไม่นั่งกระเช้า แต่จะเดินลงไปที่ตีนเขาแทน ถามทางจากเจ้าหน้าที่แถวนั้นแล้วเค้าก็บอกให้เดินลงตามทางที่ขนานกับถนนไป จากที่หาข้อมูลก่อนมา เค้าก็บอกว่าคนส่วนใหญ่นิยมนั่งกระเช้าเฉพาะขาขึ้นมา แล้วเดินลงเอาเอง แต่ทางที่ผมเดินลงมานี่ไม่เจอใครเดินด้วยเลยสักคน หมอกลงจัดจนน่ากลัวว่าจะเดินตกเขาเอาได้ นานๆ ทีจะมีรถขับผ่านไปสักคัน แต่เส้นทางที่เดินลงมานี่ก็ถือว่าวิวสวยใช้ได้เลย ถ้าหมอกลงน้อยกว่านี้ และฝนไม่ตก…
-
เที่ยวคิวชูด้วยตัวเอง : มุ่งหน้าสู่ Mount Aso
หลังจากที่เตร็ดเตร่อยู่แต่ในตัวเมือง Fukuoka มาหลายวัน ในที่สุดวันนี้ก็จะได้ออกไปเที่ยวจังหวัดอื่นบ้างแล้ว ก่อนหน้านี้ก็เอาคูปองไปแลกตั๋ว JR Pass มาให้เรียบร้อย ตอนที่แลกก็บอกเจ้าหน้าที่ไปว่าจะเริ่มใช้งานตั้งแต่วันไหน เค้าจะพิมพ์ตั๋วที่ระบุชื่อของเรา, เลขพาสปอร์ต, วันที่ใช้งานได้ ออกมาเสียบไว้กับบัตร JR Pass ให้ เวลาใช้ JR Pass จะใช้กับประตูอัตโนมัติไม่ได้ ก็ให้เดินเข้าทางประตูข้างๆ จะมีพนักงานยืนตรวจอยู่ พอยื่น JR Pass ให้เค้าก็จะเปิดประตูให้เอง โปรแกรมวันนี้จะมุ่งหน้าสู่ภูเขา Aso ใจกลางเกาะคิวชู เพื่อไปดูปากปล่องภูเขาไฟที่ยังดับไม่สนิท ซึ่งการเดินทางออกจะลำบากหน่อย และเรื่องเวลาต้องเป๊ะพอสมควร (รูปประกอบจาก japan-guide.com) สเต็ปแรกคือนั่งชินคันเซ็น (ในแผนที่จะเป็นเส้นสีแดง) จาก Hakata ไปลงที่สถานี Kumamoto ในจังหวัด Kumamoto ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ต่อรถไฟ JR limited express (เส้นสีส้ม) ไปลงที่สถานี Aso ใช้เวลาประมาณ 70 นาที…
-
เที่ยวคิวชูด้วยตัวเอง : Kiharu
จบจากคอนเสิร์ตของ Nogizaka46 แล้ว ผู้คนทยอยออกมาจากฮอลล์พร้อมกันหมด คนที่จะต่อรถเมล์ก็ยืนต่อคิวที่ป้ายรถเมล์กันเป็นระเบียบมาก เห็นแล้วอดเทียบกับคนรอรถเมล์บ้านเราแถวอนุสาวรีย์ฯ ไม่ได้ ส่วนคนที่จะกลับรถไฟใต้ดินก็ต้องเดินออกไปไกลสักนิด เพราะ Kokusai Center ที่จัดงานอยู่ค่อนข้างห่างจากสถานี ผมแวะเอากล้องและสัมภาระอื่นที่เก็บไว้ในล็อคเกอร์ที่สถานี ก่อนจะหาอะไรกินอีกสักหน่อยก่อนกลับเข้าที่พัก ร้านที่ไปชื่อว่าร้าน きはる (Kiharu) อยู่ไม่ไกลจากสถานี Tenjinminami เท่าไหร่ แต่เป็นร้านเล็กๆ อยู่บนชั้นสองของหลืบหนึ่ง ต้องเดินหาอยู่สักพักนึงถึงจะเจอ ทางขึ้นหน้าร้านมีป้ายผ้าผืนใหญ่ กับป้ายไฟเล็กๆ ต้องตั้งใจหาจริงๆ ถึงจะเจอ ตัวร้านอยู่ชั้นสอง มีห้องแยกสำหรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่ม กับเคาท์เตอร์ขนาดนั่งได้ราวๆ 8 ที่นั่ง ตอนที่ไปถึงมีลูกค้าในห้องแยกอยู่แล้วกลุ่มหนึ่ง ตรงเคาท์เตอร์มีที่ว่างพอสมควร ผมเข้าไปนั่งข้างๆ ชายหญิงคู่หนึ่งที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว ของมึนเมาเรียงเป็นแถว มีขวดที่เป็นชื่อร้านด้วย กระป๋องลึกลับลายผีน้อยคิทาโร่ ที่ดูไม่ออกว่าข้างในเป็นอะไร สำหรับร้านเล็กๆ ในภูมิภาคบ้านนอกอย่างคิวชูนี่ เป็นเรื่องปกติที่เมนูจะไม่มีภาษาอังกฤษ แต่ลองถามหาดูก็ไม่เสียหาย ส่วนคำตอบก็เป็นดังคาดคือ ไม่มี ดังนั้นทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับเครื่องดื่มก็คือสั่งเบียร์ หรือถ้าเป็นเบียร์สดก็บอกว่า นามะบีหรุ (生ビール) สำหรับอาหารก็มามั่วเอาจากเมนูภาษาญี่ปุ่น – พอดีไม่ได้ถ่ายรูปมา แต่ดูตัวอย่างจากใน tabelog…
-
เที่ยวคิวชูด้วยตัวเอง : Nogizaka46 Summer Tour
เหตุผลหนึ่งในการมาทริปญี่ปุ่นครั้งนี้ นอกจากได้ตั๋วเครื่องบินราคาถูกแล้วก็คือมาดูคอนเสิร์ตหน้าร้อน 真夏の全国ツアー ของวง Nogizaka46 ซึ่งทัวร์นี้ก็จัดในหลายเมืองทั้งโตเกียว, โอซาก้า, นาโกย่า, เซนได รวมทั้งที่ฟุกุโอกะนี้ด้วย ที่ฟุกุโอกะนี้จัดแสดง 2 รอบคือตอนบ่ายกับค่ำ ผมได้ตั๋วรอบค่ำมา ตอนบ่ายก็ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือ แต่นี่เป็นการดูคอนเสิร์ตครั้งแรกในญี่ปุ่น เพื่อความไม่ประมาท ก็ควรจะไปดูสถานที่จัดงานก่อนว่าเป็นยังไง ระหว่างทาง เจอสาวยาคูลท์ญี่ปุ่น ถึงสถานที่จัดงานแล้ว Fukuoka Kokusai Center เจอสาวๆ แต่งชุดจากซิงเกิ้ล Natsu no Free & Easy มากันเยอะเลย เข้าใจว่าเป็นชุดที่ใส่ออกไปเดินเล่นนอกบ้านได้และเหมาะกับช่วงหน้าร้อนของญี่ปุ่นพอดี ซุ้มเล่นเกม เข้าใจว่าสำหรับคนที่สมัครสมาชิกเท่านั้น ของที่ระลึกพร้อมลายเซ็น ไม่รู้แจกด้วยวิธีไหน ตอนที่ไปถึง คอนเสิร์ตรอบบ่ายกำลังแสดงอยู่ มีเสียงลอดออกมาข้างนอกอาคารเล็กน้อย ผมเดินผ่านไปทางซุ้มขายของที่ระลึกก็พบว่า เสื้อยืดที่ระลึกทัวร์ขายหมดแล้ว เหลือแต่ของอย่างอื่นที่ใช้ประโยชน์อะไรไม่ค่อยได้ เลยไม่ได้ซื้อมา ก็จำไว้เป็นบทเรียนว่า ถ้าอยากซื้อของที่ระลึกควรมาต่อคิวแต่เนิ่นๆ ก่อนจะมาคอนเสิร์ต ปรึกษากับมิตรสหายหลายท่าน เค้าก็แนะนำไว้ว่าให้พกกล้องส่องทางไกลไปด้วย จะได้เห็นชัดๆ ผมเลยไปเดินดูที่ Bic Camera แต่ว่ามีให้เลือกไม่กี่แบบ ก็เลยลองไปดู…
-
เที่ยวคิวชูด้วยตัวเอง : Canal City / Yamanaka Sushi
วันที่สองในฟุกุโอกะวางโปรแกรมไว้หลวมๆ เน้นเดินเที่ยวในโซน Hakata-Tenjin ไปเรื่อยๆ ไม่ได้ออกไปไหนไกล มื้อเช้าซื้อจากร้านมินิมาร์ท Sunkus เป็นซาลาเปาไส้คัสตาร์ด มีขายในช่วงโปรโมทหนังโดราเอมอน 3D ที่กำลังเข้าโรงในญี่ปุ่นอยู่ตอนนั้น ถึงวันนี้จะไม่ได้ออกไปนอกเมือง แต่เมื่อผ่านสถานี Hakata ก็ถือโอกาสแลกตั๋ว JR Pass เสียหน่อย (แลกวันนี้เริ่มใช้พรุ่งนี้ได้) รวมทั้งจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าสำหรับวันต่อไปด้วย เพราะว่ารถไฟ Limited Express บางสายต้องจองที่นั่งก่อนล่วงหน้าเท่านั้น ถ้าไม่จองก็อาจจะไม่มีที่นั่ง โดยเฉพาะรถไฟสายท่องเที่ยวยอดฮิตอย่าง Aso Boy หรือ Yufuin no Mori ควรวางแผนล่วงหน้าแล้วรีบจองตั้งแต่เนิ่นๆ เลยดีกว่า เสร็จจากเรื่องตั๋วรถไฟแล้ว เป้าหมายเช้านี้คือไปห้าง Canal City แหล่งช้อปปิ้งยิ่งใหญ่ใจกลางเมือง อยู่ห่างจากสถานี Hakata ไปไม่ไกลมากนัก ก็เลยเดินเอา ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ระหว่างทางเจอไซต์ก่อสร้าง ที่กำลังจะสร้างออฟฟิศของ LINE สาขาฟุกุโอกะด้วย เดินผ่าน 7-11 เห็นมีโปรโมชั่นขายของ Evangelion หลอกกินตังค์สาวกกันมาสิบกว่าปีแล้ว…