ต่อจาก entry นี้กำลังจะเดินทางไป Akihabara
รอขึ้นรถไฟ
เจอเธอคนนี้
ถึงสถานี Akihabara แล้ว
Akihabara ในสมัยก่อนเป็นย่านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า/อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แต่ในช่วงหลังที่วัฒนธรรมอนิเม การ์ตูน เกม บูมขึ้นมา Akihabara ก็กลายเป็นแหล่งรวมสินค้าเหล่านี้ไปแทน แต่ถ้าลองเดินตามซอยเล็กๆ ที่ไม่ได้อยู่บนถนนหลักก็ยังพอมีของเหล่านี้ขายอยู่บ้าง
อนิเม/การ์ตูน ที่พูดถึง Akihabara ก็มีมากมายหลายเรื่องแต่เรื่องที่ชอบเป็นการส่วนตัวมากที่สุดคือ Stein;Gate (24 ตอนจบ ลิขสิทธิ์โดยโรสมีเดีย) แนะนำให้ลองหามาดูกัน
ทางม้าลายคนข้าม เหลืองๆ นั่นคือร้านขายยา Matsumoto Kiyoshi ที่สาวไทยชอบไปซื้อเครื่องสำอางกัน (มีหลายสาขามาก)
ป้ายโฆษณา Eva 3.33 และร้านเมดคาเฟ่ชื่อดัง ที่มาเปิดสาขาในบ้านเราด้วย
เอาตัวละคร Eva มาขายชุดทำงาน ลองเข้าไปดูแล้วก็สวยดี เรียบร้อยแต่ก็แอบมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่บอกว่าเป็นของ Eva แต่ราคาแพงจนซื้อไม่ลง
โฆษณาไททัน (Attack on Titan) และ dvd คุณน้องสาวไม่น่ารัก (Ore no Imōto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai)
เมดสาวแจกใบปลิว พบเห็นได้แทบทุกมุมถนนใน Akihabara
กันดั้มคาเฟ่
วันนี้ปิด
ข้างๆ กันดั้มคาเฟ่ เป็น AKB48 Cafe & Shop
AKB48 Cafe & Shop อันนี้ด้านข้างซ้ายขวาจะเป็น shop ขายของ ด้านหนึ่งขายของเล็กๆ (เช่น พวงกุญแจ, ขนม) อีกด้านหนึ่งขายของชิ้นใหญ่กว่า (เช่น เสื้อยืด, แฟ้ม) ตรงกลางจะเป็นส่วนของ Cafe ซึ่งเข้าไปแล้วจะมีสองส่วน คือส่วนที่เหมือนร้านอาหารทั่วไป มีโต๊ะให้นั่ง มีทีวีแขวนให้ดู กับส่วนที่เป็นห้องด้านใน จะเป็นห้องขนาดใหญ่ มีทีวีจอยักษ์ น่าจะประมาณทีวี 50″ 9 จอต่อกัน เปิด PV สลับกับบันทึกการแสดงจาก Theater เวลาที่มี event อะไรก็จะเอาโต๊ะกินข้าวออกแล้วจัดงานที่ในห้องนี้แหละ
ในเมื่อมาถึงที่แล้วก็ขอเข้าไปข้างในสักหน่อย วันที่ไปมีคนต่อคิวอยู่เล็กน้อย แต่รอคิวประมาณ 10 นาทีก็ได้เข้าไปแล้ว
เมนูที่สั่งคือสปาเก็ตตี้เมนไทโกะ ของดีจาก Hakata
เมนูจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อยๆ แต่ก็จะมี theme ที่เกี่ยวข้องกับเมมเบอร์ของวง
สั่งเซตเมนู จะมีแถม coaster (ที่รองแก้ว) ให้อันนึงเป็นแบบสุ่ม
จับได้ Tano Yuuka ทีม A
อิ่มท้องแล้วก็ออกมาเดิน Akihabara ต่อ
วิวตึกจากมุมคนเดินถนน
สถานที่ถัดไปคือตึก Belle Salle ที่ตอนนี้มีจัดนิทรรศการ งานเลือกตั้ง AKB48 อยู่
สำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามวงการไอดอลญี่ปุ่น วงที่มีสมาชิกเยอะมากอย่าง AKB48 จะมีงานเลือกตั้งทุกปี (ปีนี้เป็นครั้งที่ 5) โดยจะมีโค้ดสำหรับโหวตให้มากับแผ่นซีดีให้แฟนๆ เอาไปโหวตจัดอันดับเมมเบอร์ที่ตัวเองชื่นชอบได้ คนที่ได้ผลโหวตเป็นอันดับหนึ่งก็จะได้เป็น “เซ็นเตอร์” ของซิงเกิ้ลถัดไป ซึ่งงานนี้ก็จะเป็นงานใหญ่ของ AKB48 มีสื่อมวลชนให้ความสนใจกันเยอะ ขนาดถ่ายทอดสดออกทางทีวีและ YouTube กันเลยทีเดียว
วันที่มาโตเกียวครั้งนี้เป็นหนึ่งวันก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง
ซื้อตั๋วเข้าชมงานแล้วเค้าจะให้บัตรมาห้อยคือ มีสต๊าฟเก็บคืนตอนจะออกจากงาน
เมมเบอร์แต่ละคนจะออกแบบโปสเตอร์หาเสียงของตัวเอง ในนิทรรศการเค้าจะเอาของทุกคนมาแปะรวมกันให้ดูกันได้ครบๆ
บอร์ดแสดงข่าวงานเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆ มาที่ไปออกสื่อต่างๆ
ชุดสำหรับเซ็นเตอร์ในซิงเกิ้ลที่ชนะเลือกตั้งครั้งก่อนๆ
บางวันจะมีเมมเบอร์มาทักทายแฟนๆ ที่นิทรรศการด้วย (ไม่บอกล่วงหน้า) ใครที่ได้มาก็จะมาลงชื่อไว้
งานประกาศผลเลือกตั้งปีนี้จัดกลางแจ้งที่ Nissan Stadium ก็เลยมีกิจกรรมให้แฟนๆ ช่วยทำตุ๊กตาไล่ฝน
จำลองเวทีสำหรับผู้ที่ชนะการเลือกตั้ง คนมาชมงานสามารถขึ้นไปนั่งถ่ายรูปได้ มีสต๊าฟคอยบริการช่วยถ่ายให้
ผลคะแนนด่วน อันดับหนึ่งคือ ซาชิฮาร่า ริโนะ
บรรยากาศใน Akihabara ช่วงนั้นไปไหนก็จะได้ยินแต่เพลง Sayonara Crawl ซึ่งเป็นซิงเกิลล่าสุดของ AKB48 เรียกว่าเดินผ่านร้านไหนที่ขาย CD/DVD เป็นต้องได้ยิน
ถนนสายหลักใน Akihabara
สถานที่ต่อไปเป็นที่ที่แฟนๆ AKB48 ต้องมาสักการะให้ได้สักครั้ง นั่นคือ AKB48 Theater ที่อยู่บนชั้น 8 ของห้าง Don Quixote
ห้าง Don Quixote
ป้ายชัดเจน ไม่ผิดที่แน่นอน
สำหรับคนที่ไม่ได้ติดตาม AKB48 อาจจะสงสัยว่า Theater คืออะไร ตอบแบบสั้นๆ คือ เป็นที่แสดงโชว์ของ AKB48 โดยสมาชิกจะผลัดเปลี่ยนกันมาแสดง “ทุกวัน” (ยกเว้นจะติดอีเว้นท์อื่น) ตั้งแต่สมัยที่ยังไม่ดัง ตาม concept ที่ว่า “ไอดอลที่ทุกคนมาเจอได้” รายละเอียดยาวๆ อ่านได้ที่ blog จ่ากบ ครับ
ห้าง Don Quixote นี่จะเป็นห้างบ้านๆ หน่อย เทียบไม่ได้กับห้างหรูอย่างในบ้านเรา ถ้าให้เทียบก็อารมณ์ประมาณเดินพันธุ์ทิพย์ แต่แคบกว่าขายของจิปาถะ ตั้งแต่ขนม ของกิน เสื้อผ้า ชุดคอสเพลย์ ฯลฯ นอกจากนี้ก็มีเกมเซ็นเตอร์ และร้านเมดคาเฟ่ด้วย
ที่ชั้น 5 ของห้างจะมี AKB48 Shop อยู่ด้วย ที่นี่จะเน้นขายพวก CD/DVD/Blueray, เสื้อ, แท่งไฟ, ของที่ระลึก ฯลฯ หลายๆ อย่างก็ไม่มีขายที่อื่น
ร้านบ้านๆ งี้แหละ
บนผนังมีรายการ CD/DVD ที่มีขาย ถ้าจะซื้อก็จดรหัสเอาไปให้สต๊าฟ
แท่งไฟ สมุดโน้ต อัลบั้มรูป Trading card โปสเตอร์ ฯลฯ
ช้อปเสร็จก็เดินต่อขึ้นไปชั้น 8
ข้างบันไดเลื่อนมีโฆษณากาชาดญี่ปุ่น
ถึงชั้น 8 แล้วจะต้องเดินผ่านทางเดินที่มีรูปของเมมเบอร์ทุกคนติดอยู่
เมมเบอร์พิเศษ ไปปฏิบัติหน้าที่ ณ จาการ์ต้า และเซี่ยงไฮ้
มาถึงหน้า Theater แล้ว มีสต๊าฟเฝ้าอยู่หนึ่งคน
48
ความรู้สึกแรกที่ไปถึงคือ “เล็ก” และ “แคบ” มากๆ สำหรับการแสดง 1 รอบสามารถจุคนได้ 250 คน ซึ่งพื้นที่ตรงข้างหน้านี่ มาต่อแถวรอเข้าดูการแสดงก็เต็มพื้นที่แล้ว แต่วันนี้เป็นวันที่ไม่มีการแสดง (เพราะวันรุ่งขึ้นมีคอนเสิร์ตใหญ่ + งานประกาศผลเลือกตั้ง) ก็เลยไม่มีคน แต่ก็มีแฟนๆ มาถ่ายรูปกันประปราย (ดูแล้วน่าจะเป็นนักท่องเที่ยว)
โปสเตอร์หาเสียง มีแปะอยู่ทั่วไป
ถ้าใครมาดูการแสดงครบ 100 รอบ จะได้มีชื่ออยู่บน Hall of Fame (ซึ่งปัจจุบันยากมากๆ เพราะมีคนอยากดูเยอะ ทำให้ต้องขายตั๋วเข้าชมด้วยวิธีจับสลาก)
ปีที่แล้ว AKB48 ได้ออกอัลบั้มชื่อว่า “1830m” ออกมา โดยความหมายของชื่ออัลบั้มคือ ความฝันของเหล่าเมมเบอร์ตั้งแต่สมัยยังไม่ดัง ที่อยากจะได้เล่นคอนเสิร์ตที่โตเกียวโดม ที่อยู่ห่างออกไปจาก theater แค่ 1,830 เมตร ซึ่งกว่าฝันจะเป็นจริงก็ใช้เวลาถึง 7 ปี ในฐานะแฟนเพลง ก็อยากจะขอลองเดินตามดูสักหน่อยว่า 1,830 เมตรนี้มันไกลขนาดไหน
เปิด Google Maps เดินลัดเลาะออกจาก Akihabara
ผ่านศาลเจ้าคันดะ ซึ่งเวลามีพิธีบรรลุนิติภาวะของเมมเบอร์ในวง (ตามประเพณีญี่ปุ่น) ก็จะมากันที่ศาลเจ้านี้
โคมไฟ
ประตู
เดินออกจากประตูไปเจอนักเรียนมัธยมใส่ชุดวอร์มออกมาวิ่ง เป็นระเบียบ ส่งเสียงเหมือนในการ์ตูนกีฬาเป๊ะ
มนุษย์จักรยาน
เดินจนหอบแฮ่ก ในที่สุดก็มาถึงโตเกียวโดมจนได้ (ในสารคดี AKB ดูแล้วเหมือนใกล้ แต่จริงๆ แล้วเหนื่อยใช้ได้)
โตเกียวโดม
ใกล้ๆ กันมีชิงช้าสวรรค์กับรถไฟเหาะด้วย
โตเกียวโดมเป็นสนามเบสบอลของทีม Yomiuri Giants ความจุ 55,000 ที่นั่ง แต่ก็สามารถใช้จัดงานคอนเสิร์ตได้ด้วย
ได้แค่แอบส่องดูข้างใน เพราะเค้าไม่ให้เข้า
เพราะเป็นสนามเบสบอล ก็เลยมีร้านขายของที่ระลึกของสโมสรด้วย
ฝั่งตรงข้ามเป็นคล้ายๆ ลานเบียร์บ้านเรา เห็นมีมนุษย์เงินเดือนนั่งกินกันอยู่พอสมควร
จบภารกิจในวันแรกของการมาโตเกียวแล้ว สุดท้ายคือหาทางมั่วกลับไปที่พักให้ได้
เดินไปเดินมา เจอกลุ่มคนกำลังลุ้นแทงพนันอะไรสักอย่าง
เจอร้าน Denny’s เป็น family restaurant ที่เปิด 24 ชม. ฝากท้องตอนดึกๆ ได้
สุดท้ายก็เดินไปจนเจอสถานีรถไฟ ต่อรถแบบมั่วๆ (เพิ่งมาวันแรก ยังไม่คุ้น) กลับไปถึงที่พักจนได้ เป็นอันจบวันแรกแบบเหนื่อยแฮ่กๆ
Leave a Reply