-
Barcamp Bangkok 5
เพื่อไม่เป็นการละเลยกฎของ BarCamp ข้อสอง “You do blog about BarCamp” ก็ขอบันทึกลง blog ไว้สักหน่อย BarCamp Bangkok ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 ห่างจากครั้งที่ 4 ไปปีกว่า (แต่ระหว่างนั้นก็มีคนจัด BarCamp Bangkhen ไปสองรอบ) รูปแบบของงานเปลี่ยนไปจากงานครั้งอื่นๆ เยอะ จากงานที่มีคนเข้าร่วมหลายร้อยคน (ครั้งที่ 2-4) ก็เหลือแค่ไม่ถึงร้อยคน ตัดรายละเอียดรุงรังที่ทำให้การจัดงานวุ่นวายโดยไม่จำเป็นออกนั่นคือ ไม่เลี้ยงข้าว ไม่มีแจกเสื้อ ไม่มีเน็ตฟรี บวกกับการจำกัดจำนวนคนเข้าร่วม (เนื่องจากสถานที่ไม่ใหญ่) บังคับให้คนลงทะเบียนต้องระบุหัวข้อที่จะพูดก่อนวันงาน ทำให้ BarCamp คราวนี้เป็นงานที่มีหัวข้อน่าสนใจเยอะกว่าครั้งที่ผ่านๆ มาอย่างชัดเจน session ที่ได้เข้าก็มีเรื่อง Hadoop / OpenStreetMap / Websocket / MeshBKK / CDN / Manycore System แล้วก็พูดเองไป session…
-
Redesign
วันนี้มีเวลาว่างๆ ทั้งวัน ได้โอกาสทำเรื่องที่อยากทำมานานแล้วคือ ย้าย pittaya.com จากโฮสติ้งเดิมที่เป็น shared host ของ site5 มาอยู่บน cloud สักที เรื่องการใช้งานก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่รู้สึกว่าการบริหารจัดการผ่านหน้า web interface มันไม่ถนัด แล้วบนโฮสต์ก็มีของที่ไม่ใช้แต่ไม่ได้ลบออก เละเทะไม่ค่อยเป็นระเบียบ รวมทั้งสัญญาเช่าจะหมดเอาปลายเดือนนี้แล้วด้วย ก็เลยได้จังหวะย้ายเสียเลย คำถามแรกที่เจอคือ จะย้ายไปอยู่ที่ไหน ซึ่งตัวเลือกยอดฮิตก็มี 3 ยี่ห้อใหญ่ คือ EC2 ของ Amazon, Azure ของ Microsoft หรือว่า GCE ของ Google แต่ละเจ้าก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป สุดท้ายก็เลือกเอา EC2 ของ Amazon เพราะเคยใช้มาก่อนแล้ว คุ้นเคยที่สุด ขี้เกียจอ่าน document เพิ่มเติม เนื่องจากว่าเป็น blog เล็กๆ คนเข้าไม่เยอะ เลือกใช้เครื่องแบบถูกสุดของ Amazon ก็น่าจะพอ…
-
โตเกียวเที่ยวเอง #2.2 : Bridgestone Museum of Art / Akihabara รอบสอง
เสร็จจาก Edo-Tokyo Museum แล้ว สถานที่ต่อไปที่จะไปต่อคือ Bridgestone Museum of Art ก็นั่งรถไฟข้ามกลับมาทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุมิดะ ลงที่สถานี Tokyo แล้วเดินอีก 5 นาที ร้านขายของในสถานี ชุดนักเรียนญี่ปุ่น มาถึงหน้า museum แล้ว Bridgestone Museum of Art เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดไม่ใหญ่นัก เดินสักชั่วโมงเดียวก็ทั่วแล้ว งานส่วนใหญ่เป็นภาพเขียนของศิลปินตะวันตก เน้นไปทางกลุ่มพวก Impressionist อย่าง Renoir, Monet, Degas ฯลฯ แต่ก็ไม่ค่อยมีงานชิ้นดังๆ เท่าไหร่ (ข้างในห้ามถ่ายรูป) ตั๋วราคาราวๆ 1,500 เยน ขึ้นอยู่กับนิทรรศการหมุนเวียนช่วงนั้นว่ามีอะไรให้ดู ช่วงที่ไปมีนิทรรศการหมุนเวียนเรื่องปารีสในสายตาของศิลปินญี่ปุ่น ก็มีรูปให้ดูเพลินๆ ป้ายโฆษณาหน้า museum ดูจบแล้วก็มีอีเวนท์ที่ต้องย้อนกลับไปที่ Akihabara อีกรอบนึง เจอยีราฟระหว่างทางเดินไปสถานี ยีราฟอีกมุมนึง ในสถานีมีโฆษณา anpanman museum โฆษณาเบียร์ Kirin…
-
โตเกียวเที่ยวเอง #2 : วัดเซ็นโซจิ / โตเกียวสกายทรี / Edo-Tokyo Museum
วันที่สองของการเที่ยวโตเกียว ต่อจาก entry ก่อน วันนี้ตื่นแต่เช้า ออกมาวัดเซ็นโซจิ ที่อยู่ใกล้ๆ ที่พัก วัดเซ็นโซจิ เป็นวัดดังอยู่ในย่านอาซาคุสะ ทำให้บางครั้งนักท่องเที่ยวก็เรียกที่นี่กันว่าวัดอาซาคุสะ มาเดินดูช่วงเช้า บรรยากาศจะเงียบๆ หน่อยเพราะร้านค้ายังไม่เปิด นักท่องเที่ยวยังไม่มา ประตูวัด มีโคมแดงใหญ่เด่นเป็นสัญลักษณ์ ประตูที่มีโคมใหญ่นี่เรียกว่า Kaminarimon (雷門) แปลว่า ประตูสายฟ้า สองข้างจะมีรูปปั้นเทพสายฟ้าและเทพสายลม ไรจิน-ฟูจิน เฝ้าอยู่ มองเข้าไปจะมีร้านค้าขายของหลอกกินตังค์นักท่องเที่ยวตลอดสองข้างทาง ต้องเดินผ่านโซนร้านขายของนี่เข้าไปถึงจะเจอกับตัววัด ป้าย “Koban” หรือป้อมตำรวจใกล้ๆ วัด ด้านหลังเป็นโฆษณา DVD/Blueray คอนเสิร์ต Request Hour ของ AKB48 มาเช้าเกิน ร้านค้ายังไม่เปิด เดินผ่านโซนร้านค้าเข้าไป ก็จะเข้าเขตวัด ตัววัดก็เป็นวัดญี่ปุ่น ขนาดใหญ่ ด้านข้างมีเจดีย์สูง ข้างวัดมีจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่น ร่มรืนดี มีน้ำตก มีน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา เนื่องจากแถวนี้เป็นแหล่งนักท่องเที่ยว ไม่ว่ากรุ๊ปทัวร์ประเทศไหนเป็นต้องมาลงที่นี่ เดินออกจากวัดไปนิดเดียวก็เจอของแนวขายนักท่องเที่ยวเต็มไปหมด สารพัดหน้ากาก ภาพด้านหลังเป็นเทศกาลอะไรสักอย่าง ที่ชายหนุ่มจะมาช่วยกันหามเกี้ยว…
-
โตเกียวเที่ยวเอง #1.2 : Akihabara / AKB48 / Tokyo Dome
ต่อจาก entry นี้กำลังจะเดินทางไป Akihabara รอขึ้นรถไฟ เจอเธอคนนี้ ถึงสถานี Akihabara แล้ว Akihabara ในสมัยก่อนเป็นย่านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า/อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แต่ในช่วงหลังที่วัฒนธรรมอนิเม การ์ตูน เกม บูมขึ้นมา Akihabara ก็กลายเป็นแหล่งรวมสินค้าเหล่านี้ไปแทน แต่ถ้าลองเดินตามซอยเล็กๆ ที่ไม่ได้อยู่บนถนนหลักก็ยังพอมีของเหล่านี้ขายอยู่บ้าง อนิเม/การ์ตูน ที่พูดถึง Akihabara ก็มีมากมายหลายเรื่องแต่เรื่องที่ชอบเป็นการส่วนตัวมากที่สุดคือ Stein;Gate (24 ตอนจบ ลิขสิทธิ์โดยโรสมีเดีย) แนะนำให้ลองหามาดูกัน ทางม้าลายคนข้าม เหลืองๆ นั่นคือร้านขายยา Matsumoto Kiyoshi ที่สาวไทยชอบไปซื้อเครื่องสำอางกัน (มีหลายสาขามาก) ป้ายโฆษณา Eva 3.33 และร้านเมดคาเฟ่ชื่อดัง ที่มาเปิดสาขาในบ้านเราด้วย เอาตัวละคร Eva มาขายชุดทำงาน ลองเข้าไปดูแล้วก็สวยดี เรียบร้อยแต่ก็แอบมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่บอกว่าเป็นของ Eva แต่ราคาแพงจนซื้อไม่ลง โฆษณาไททัน (Attack on Titan) และ dvd…
-
โตเกียวเที่ยวเอง #1 : Yokoso Tokyo
อย่างที่เล่าไปแล้วใน entry ก่อนว่า การมาญี่ปุ่นคราวนี้เป็นครั้งแรก แถมมาคนเดียวด้วย ส่วนความรู้ภาษาญี่ปุ่นมีอยู่ที่ระดับเรียนจบคอร์ส JD2 ของสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น (แปลว่า อ่านฮิรากานะ, คาตากะนะ ออก แต่แปลไม่ได้ + รู้คำศัพท์จำกัดมากๆ + รู้คันจิประมาณ 20 ตัว) ก็อาศัยมั่วๆ เอาเป็นหลัก ทริปนี้นั่งเครื่องมาลงที่นาริตะ (NRT) สนามบินหลักอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกของโตเกียว จะเข้ามาในเมืองก็ต้องนั่งรถไฟ หรือไม่ก็รถบัส มีให้เลือกหลายสายทั้งแบบด่วนมาก ด่วนน้อย หรือหวานเย็น ตั๋วหวานเย็น ราคา 1,240 เยน ผมจองที่พักไว้เป็น hostel แถว Asakusa ชื่อ Khaosan Tokyo Original (อยู่โตเกียว แต่ดันชื่อข้าวสาร) นอนเตียงรวมเน้นประหยัด สภาพโดยรวมก็สะอาดดี ถึงที่พัก เช็คอิน เก็บข้าวของ ก็ได้เวลาลุยโตเกียวแล้ว การเดินทางในโตเกียว จะใช้รถไฟเป็นหลัก ซึ่งสะดวกสบายและครอบคลุมมากกว่ารถเมล์ ถ้าใช้บัตรเติมเงิน Suica ได้ก็จะสะดวกดี…
-
สรุปทริปโตเกียว
การไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นเรื่องที่ผมคิดไว้นานแล้ว แต่ด้วยข้ออ้างหลายๆ อย่าง เช่นว่า ไม่มีตังค์บ้าง เวลาไม่เหมาะบ้าง ไม่รู้ภาษาบ้าง ไม่มีคนไปด้วยบ้าง ก็เลยไม่ได้ไปสักที จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง มีน้องที่ออฟฟิศทักมาว่าการบินไทยมีโปรโมชั่นลดราคาอยู่ พอเข้าไปลองกดดูราคา กดเลือกวันดูสักพักก็ตัดสินใจได้ว่า ถ้ารออยู่ก็ไม่ได้ไปสักที ลุยเลยละกัน สรุปก็ได้ตั๋วการบินไทย ไป-กลับ กรุงเทพ-นาริตะ มาในราคา 20,540 บาท เดินเรื่องเอกสารวีซ่า จองที่พักเสร็จเรียบร้อย ก็เลยกลายมาเป็นทริปลุยเดี่ยว ตั้งแต่วันที่ 6-16 มิถุนายนที่ผ่านมา สรุปโปรแกรม 6 มิถุนายน ตอนกลางวันยังไปทำงานอยู่ ตอนเย็นรีบกลับมาเอาสัมภาระที่บ้านแล้วจับแท็กซี่ไปสุวรรณภูมิ เครื่องออก 23:50 ไม่มีดีเลย์อะไร หลับยาว 7 มิถุนายน ถึงนาริตะตอน 8 โมงเช้า ตามเวลาท้องถิ่น นั่งรถไฟเข้าเมือง ไปที่พักที่จองไว้แถว Asakusa 8-14 มิถุนายน เที่ยวๆๆ อยู่ในโตเกียวนี่แหละ 15 มิถุนายน เปลี่ยนบรรยากาศออกไปจังหวัด Chiba ข้างๆ โตเกียว…
-
Say Hello to Ghost
รู้สึกเบื่อๆ WordPress เลยลองเปลี่ยนมาใช้ Ghost แทน คิดว่ารูปแบบการเขียนที่ง่ายขึ้น จะช่วยลดความขี้เกียจในการเขียนลงได้บ้าง ลองทดสอบระบบ import จาก wordpress มา ghost แล้วยังเจอ bug อยู่ในระดับใช้งานไม่ได้ โพสต์เก่าๆ คงต้องทยอยเอามาลงแบบ manual แทน